อุซเบกิสถาน
ทาจิกิสถาน
05.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 8-9 แถว S เคาน์เตอร์สายการบิน อุซเบกิสถาน แอร์เวย์ Uzbekistan Airways (HY)
เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
08.10 น. ออกเดินทางสู่เมืองทาซเคนท์ ประเทศอุซเบกิสถาน โดย Uzbekistan Airways เที่ยวบินที่ HY 532
(บริการอาหารและพักผ่อนบนเครื่องบิน)
13.10 น. เดินทางถึง สนามบินเมืองทาซเคนท์ (Tashkent International Airport) หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว นำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองทาซเค้นท์ (Tashkent) เป็นเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของประเทศ มีความหมายว่า เมืองแห่งศิลา (The City of Stone) เป็นเมืองที่ใหญ่ประกอบไปด้วยโรงงานอุตสาหกรรมและเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมในเอเชียกลาง มีประชากรประมาณ 2 ล้านคน เป็นประเทศในเอเชียกลางที่ถูกล้อมรอบด้วย ประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล (Double Landlocked Country) มีพรมแดนติดประเทศ คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน ทาจิกิสถาน และเติร์กเมนิสถาน และอัฟกานิสถาน... นำท่านชมความสวยงามของเมืองหลวง ซึ่งเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่ยังคงเหลืออยู่ หลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในปี ค.ศ. 1966 เมืองนี้ตั้งอยู่บนเส้นทางสายไหมจากจีนสู่ยุโรป และหลังจากการปฏิวัติ เมืองนี้กลายเป็นเมืองที่มีความทันสมัยออกแบบในสไตล์ของโซเวียต...
นำท่านชม จัตุรัสเสรีภาพ หรือ จัตุรัสมุสตาคิลลิก (Independence Square หรือ Mustakillik Square) เป็นหัวใจของเมืองและเป็นสัญลักษณ์แห่งอิสรภาพของคนในชาติทางเดินสู่จัตุรัสออกแบบด้วยประตูโค้งที่สวยงาม กับรูปปั้นนกกระทุงแปดตัวบินขึ้นสู่ท้องฟ้าผ่านความหวังไปยังใจกลางของจัตุรัส และอีกด้านของจัตุรัสเป็นอนุสาวรีย์ทหารและวีรชนที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 2 ชม จัตุรัสอามีร์ ตีมูร์ (Amir Timur Square) หัวใจของเมืองทาชเคนต์ ตัวอนุสาวรีย์ทำจากสัมฤทธิ์ เป็นรูปตีมูร์ประทับบนหลังม้าอย่างสง่างาม
นำท่าน ผ่านชม พระราชวังโรมานอฟ (Former Residence of Prince Romanov/The Palace of Grand Duke Nicholas Constantinovich) ที่ประทับของเจ้าชายนิโคลาส คอนสแตนติโนวิช หลานชายของซาร์ นิโคลัสที่ 1 แห่งราชวงศ์โรมานอฟ ที่ได้เสด็จหนีออกมาอยู่ที่กรุงทาชเคนท์ในปี ค.ศ. 1877 โดยวังที่พักแห่งนี้ีถูกสร้างขึ้นราว ค.ศ. 1891 และอยู่ในวังแห่งนี้จนเสียชีวิตในปีค.ศ.1918 งดงามด้วยสถาปัตยกรรมการออกแบบที่ล้ำยุคแห่งกาลเวลาของเบน๊อตและเกย์ทเซลแมน แล้วพาท่านชม โรงละครอลิสเชอร์ นาวอย (Alisher Navoi Opera and Ballet Theatre) *ชมภายนอก* ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1947 โดยสถาปนิกชาวรัสเซีย อเล็ก เซย์ชูเซฟ (Aleksey Shchusev) ซึ่งเคยเป็นผู้ออกแบบที่ฝังศพของเลนินมาก่อน สถานที่แห่งนี้มีชื่อเสียงและเป็นความภูมิใจอย่างยิ่งของอุซเบกิสถาน เพื่อระลึกถึงนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ที่มีผลงานทางด้านการประพันธ์ศิลปะและดนตรี และที่สำคัญยังมีบทบาททางด้านการเมืองอีกด้วย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก Queshbegi Hotel หรือเทียบเท่า (N1)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่สนามบิน
08.00 น. เดินทางสู่ เมืองดูชานเบ (Dushanbe) โดย Uzbekistan Airways เที่ยวบินที่ HY 717
09.00 น. ถึง สนามบินดูชานเบ ประเทศทาจิกิสถาน หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและด่านศุลกากรแล้ว เดินทางเข้าสู่ตัว เมืองดูชานเบ (Dushanbe) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดในทาจิกิสถาน คำว่า “ดูชานเบ” ในภาษาทาจิกมีความหมายว่า "วันจันทร์" ซึ่งเป็นชื่อที่มาจากข้อเท็จจริงที่เมืองเป็นสถานที่ตั้งของหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงเรื่องตลาดวันจันทร์... นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์โบราณวัตถุแห่งชาติ (Museum National Antiquities) ซึ่งเป็นสถานที่จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์, ศิลปะวัฒนธรรม, ถือเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์อันทรงคุณค่าที่ดีที่สุดของประเทศทาจิกิสถาน ภายในจัดแสดงเรื่องราวผ่านวัตถุทางประวัติศาสตร์ร่วมสมัย และรวบรวมโบราณวัตถุล้ำค่าไว้มากมาย ที่ดูโดดเด่นมากที่สุดคือ องค์พระพุทธรูปปางนิพพาน ความยาว 13 เมตรที่ได้มาจากเมืองอาจินา เทปเป ทางตอนใต้ของทาจิกิสถาน...
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร
บ่าย นำท่านชม อนุสาวรีย์อิสมาอิล ซามานี (Ismail Samani Monument) บริเวณย่านนี้จัดได้ว่าเป็นจุดศูนย์รวมของเมือง โดยมีอนุสาวรีย์รูปปั้นของกษัตริย์อิสมาอิล โซมานีตั้งอยู่โดดเด่นเป็นสง่า พระองค์เป็นกษัตริย์ผู้มีพระปรีชาสามารถในการรวบรวมอาณาจักรให้เป็นปึกแผ่นรุ่งเรืองในช่วงสมัยราชวงศ์ซามานิด ราวศตวรรษ ที่ 9- 10 โดยรอบของอนุสาวรีย์เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญไม่ว่า จะเป็น อาคารที่ทำการของรัฐบาล (Palace of Nation) ที่ใช้รับรองแขกบ้านแขกเมืองสำคัญ ๆ ซึ่งด้านหน้าจะมี เสาธงชาติทาจิกิสถาน (Flag Pole) สูงตระหง่านถึง 165 เมตร ที่ครั้งหนึ่งเคยมีความสูงที่สุดในโลกครองสถิติกว่า 3 ปี (ค.ศ. 2011-2014) ถ้าไม่มีเสาธงของชาติซาอุดีอาระเบีย อันที่สร้างขึ้นใหม่มาลบสถิติที่เมืองเจดดาห์ที่สูงถึง 171 เมตร ตรงข้ามกับอนุสาวรีย์ของกษัตริย์โซมานีเป็นที่ตั้งของ อาคารรัฐสภา (Tajikistan Parliament) อาคารสีแดงโดดเด่นและบริเวณใกล้เคียง ยังมี หอสมุดแห่งชาติ (National Library) อาคารรูปเก๋ๆ เป็นรูปหนังสือที่ถูกกางเปิดออก ที่นี่ว่ากันว่ามีหนังสือถึง 10 ล้านเล่ม นับว่าเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนที่รักการอ่านอย่างจริงจัง เดินต่อไปเลียบผ่านแนวน้ำพุสวยงามยาวตลอดทาง ท่านจะพบ อนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญ (Independence Monument) ที่มีสัญลักษณ์ที่สำคัญของประเทศประดับอยู่ เดินต่อไปชมสวนสาธารณะใจกลางเมือง ที่ตั้งชื่อเป็นเกียรติให้แก่กวีเอกชาวเปอร์เชีย “รูดากี้” ณ บริเวณ สวนสาธารณะรูดากิ (Rudaki Park) เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่และดอกไม้นานาพันธุ์ ....จากนั้นนำท่านชมวิถีชีวิตของชาวเมืองทาจิก ณ Sakhovat Bazaar เป็นตลาดขนาดใหญ่มาก ที่มีจำหน่ายทั้งเนื้อสัตว์ ผักสด ผลไม้สด อาหารต่างๆ ตลอดจนเครื่องใช้อุปโภค-บริโภค อิสระให้ท่านเดินชม ชิม ช้อป ตามอัธยาศัย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก Atlas Hotel หรือเทียบเท่า (N2)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองปันจาเคนท์ (Panjakent) (ระยะทาง 236 กม./4.10 ชม.) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในแคว้นซูกด์ ติดกับชายแดนอุซเบกิสถาน เมืองนี้เคยเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรซอคเดียน (Sogdian) ตรงบริเวณหุบเขาซีรัฟชาน (Zeravshan Valley) (ซอคเดียน คือกลุ่มคนที่พูดภาษาอิหร่าน ซึ่งเป็นชนกลุ่มใหญ่ที่อาศัยอยู่ในแถบเอเชียกลางในยุคก่อนการเข้ามาของศาสนาอิสลาม) มีการค้นพบซากอารยธรรมศาสนาโซโรอัสเตอร์มากมาย ระหว่างทางจะผ่าน เมืองไอนี (Ayni) แวะผ่อนคลายอิริยบถและชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวทาจิกซึ่งอาศัยอยู่ในแถบหุบเขาสูง ก่อนเดินทางต่อ
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร
บ่าย นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์รูดากิ (Rudaki Museum) เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดในเมือง เป็นที่เก็บรวบรวมสิ่งของต่าง ๆ มากมาย ที่พบในแหล่ง Sarazm และ Ancient Panjakent บอกเล่าเรื่องราวของอารยธรรม Sogdian ซึ่งผู้คนจำนวนมากใน Panjakent สืบเชื้อสายมา พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งชื่อตาม Abu Abdullah Rudaki ซึ่งเป็นกวีชื่อดังและเป็นวีรบุรุษของชาติทาจิกิสถานในช่วงศตวรรษที่ 10...
จากนั้นนำท่านเดินทาง ข้ามพรมแดนทาจิกิสถาน-อุซเบกิสถาน แล้วเดินทางต่อสู่ เมืองซามาร์คานด์ (Samarkand) เป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดเมืองหนึ่งในเอเชียกลาง ตั้งอยู่ในโอเอซิส ซึ่งได้รับน้ำมาจากคลองที่ขุดมาจากแม่น้ำซารัฟชาน อเล็กซานเดอร์มหาราชได้ผ่านมาเมืองนี้เพื่อที่จะเดินทางไปยังอินเดีย จึงได้ยึดครองเอาไว้ ต่อจากนั้นก็เป็นพวกอาหรับ พวกเติร์ก ก็ได้เข้ามาปกครองต่อ ๆ กันมา เมืองนี้ได้มีความเจริญรุ่งเรืองสูงสุดในยุคกลาง และในปี ค.ศ.1215 เจงกิส ข่าน ได้แผ่อาณาจักรเข้ามาควบคุมเส้นทางสายไหม และเข้ายึดเมืองนี้ ในปี ค.ศ. 1221 และอีกประมาณร้อยปีต่อมา ตีมูร์ข่าน ก็ได้สร้างอาณาจักรแห่งนี้ให้มีความเจริญรุ่งเรืองขึ้นมา จนได้รับสมญานามว่า “เมืองแห่งโดมสีฟ้า (The City of Blue Domes)” ในประวัติศาสตร์ ถ้านับย้อนหลังไปหลายร้อยปีและยังได้ชื่อว่าเป็นต้นกำเนิดแห่งนิยาย 1001 อาหรับราตรี (1001 Arabian Nights) และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกใน ปี ค.ศ. 2001 อีกด้วย..
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก AL Madina Hotel หรือเทียบเท่า (N3)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชม สุสานอามีร์ ตีมูร์ (Amir Temur Mausoleum - Gur I Amir Complex) สร้างขึ้นโดยข่าน ตีมูร์ในปี ค.ศ. 1403 เพื่อใช้เป็นที่ฝังศพของสุลต่าน มูฮัมหมัด (Sultan Muhammad) ซึ่งเป็นหลานรักที่เสียชีวิตในเปอร์เซีย มีประตูทางเข้าก่ออิฐถือปูนตั้งเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าซุ้มโค้ง มีโดมสีฟ้าผิวลอนกระดูกงูสูงประมาณ 36 เมตร ผนัง ห้องและเพดานโค้ง ภายในประดับด้วยกระเบื้องอิฐเผาลงด้วยลายสีทอง สีอำพัน สีฟ้าน้ำทะเล แต่ก่อนหน้านั้นในปี ค.ศ. 1380 อาเมียร์ ตีมูร์ ได้โปรดให้สร้างที่ฝังศพของพระองค์เตรียมไว้ก่อน ที่บ้านเกิด คือ เมืองชาห์ริซาบซ์ แต่ในระหว่างที่ได้ยกทัพไปบุกจีน และได้สิ้นพระชนม์ เมื่อปี ค.ศ. 1405 จึงได้นำพระศพเดินทางกลับมาภายใน 24 ชม. เพื่อฝังตามหลักศาสนา แต่ก็ไม่สามารถทำได้ทันเวลา จึงได้ฝังไว้ที่ กูริ อามีร์ และต่อมาก็ได้ใช้เป็นสุสานของผู้ปกครองนครซามาร์คานด์หลายพระองค์ สถานที่แห่งนี้มีความโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรมจนเป็นที่เลื่องลือไปทั่วโลก...จากนั้นชม จตุรัสเรจีสถาน (Registan Square) เป็นจัตุรัสกลางเมืองที่มีชื่อเสียงและยิ่งใหญ่ งดงามไปด้วยศิลปะอิสลาม ซึ่งถูกกล่าวขานว่ามีความงดงามที่สุดในเอเชียกลาง ตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบสีฟ้าตัดขอบด้วยสีเหลือง รายล้อมไปด้วยโรงเรียนสอนศาสนา (Madrasah) ถึง 3 แห่ง คือ อูลุค เบก (Ulug Beg) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1417-1420 และ เชียร์ ดอร์ (Shir Dor) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1619-1636 โดยเลียนแบบมาจากอูลุค เบค ผนังกำแพงมีลวดลายรูปทรงเลขาคณิต และซุ้มประตูมีรูปเสือลายพาดกลอนที่แตกต่างไปจากสถาปัตยกรรมทั่ว ๆ ไปของศาสนาอิสลาม ส่วน ทิลยา คารี (Tilya Kari) ถูกสร้างขึ้นอยู่ทางด้านเหนือในศตวรรษที่ 17 และใช้เวลาสร้างประมาณ 20 ปี ซึ่งผนังและซุ้มในกำแพงมีการปิดทองมากกว่าที่อื่นใด
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร
บ่าย นำชม สุเหร่าบิบิ คะนุม (Bibi Khanum Mosque) เป็นสุเหร่าที่ถูกสร้างขึ้นมาและใหญ่ที่สุดในโลกอิสลาม เพื่อแสดงให้เห็นถึงพลังอำนาจที่สามารถปกครองดินแดนได้มากกว่าใครในประวัติศาสตร์ ถูกสร้างเมื่อปี ค.ศ.1399 ใช้เวลาก่อสร้างนาน 5 ปี ใช้ช่างฝีมือ 200 คน แรงงาน 500 คน ช้างอีก 95 เชือก ด้านประตูทางเข้าสร้างเป็นอาคารสูงประมาณ 35 เมตร ทางเข้าสร้างเป็นรูปวงรี สูง 18 เมตร ตัวหอบังสูงประมาณ 50 เมตร ตรงทางเข้าสู่จัตุรัสมัสยิดมีขนาดพื้นที่ยาวประมาณ 167 เมตร และกว้าง 109 เมตร และสองข้างยังมีมัสยิดขนาดเล็ก โดยเฉพาะตัวโดมได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้ ภายในตกแต่งด้วยหินอ่อนแกะสลักโมเสค รูปร่างต่าง ๆ เคลือบด้วยสีฟ้างดงาม เขียนภาพและอักษรด้วยสีน้ำเงินและทอง และที่หน้าสุเหร่ายังมีแท่นซึ่งเดิมวางคัมภีร์อัลกุรอ่านที่ใหญ่ถึง 2 เมตร… จากนั้นนำชม สุสานหลวง ชาห์ อิ ซินดา (Shah-i-Zinda) ซึ่งมีความหมายว่า เป็นที่อยู่ของกษัตริย์ (The Living King/Necropolis) เป็นสถานที่รวมสุสานขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาอัฟราซิยาบ (Afrasiyab) นอกกําแพงเมืองเก่า มีอาคารหลายยุคหลายสมัยมากกว่า 20 แห่งให้ศึกษารวมทั้งกระเบื้องเคลือบโบราณที่สวยงามมาก
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ตลาดกลางซียอบ (Central Market หรือ Siyab Bazaar) ซึ่งเป็นตลาดที่มีชื่อเสียง เป็นหนึ่งเดียวของซามาร์คาน ที่ผู้คนยังคงแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่เป็นวัฒนธรรมของชาวอุซเบกและสวมหมวกที่สวยงาม อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าที่บาซาร์ มีสินค้าต่าง ๆ มากมายที่ราคาถูก เช่น ผลไม้สด พืชผักต่างๆ ถั่วนานาชนิด ขนมหวาน องุ่นแห้งที่มีทั้งสีเหลืองและดำ ฯลฯ
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก Al Madina Hotel หรือเทียบเท่า (N4)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ Navoiy (ระยะทาง 166 ก.ม./2.40 ช.ม.) เมืองหลวงของภูมิภาค Navoiy ตั้งอยู่ทางตอนกลางของอุซเบกิสถาน ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์กลางอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ระหว่างทางแวะชม ราบาติ มาลิค คาราวานซาราย (Rabati Malik Caravanserai) ซึ่งได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เป็นที่พักแรมของกองคาราวานบนเส้นทางสายไหม ตามคำสั่งของคาราคานิด ชามส์ อัล มัค นาสร์ พระราชโอรสของทัมกาชข่าน อิบรากิม ผู้ที่ปกครองในดินแดนซามาร์คานด์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1068-1088 เป็นโบราณสถานที่มีค่าที่สุดทางด้านประวัติศาสตร์ในดินแดนเอเชียกลาง และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของโลกในปี ค.ศ. 2008 ราบาติ มาลิค คาราวานซาราย เป็นสถานที่ที่มีความพิเศษในด้านประวัติศาสตร์ของสถาปัตยกรรมของเปอร์เซียโบราณมีพื้นที่กว้างใหญ่ประมาณ 8,277 ตร.เมตร โดยเฉพาะประตูทางเข้าด้านหน้าได้ถูกสร้างขึ้นอย่างวิจิตรและมีการตกแต่งอย่างสวยงามด้วยลวดลายของส่วนโค้งที่ถูกก่อขึ้นด้วยก้อนอิฐที่มีขนาดใหญ่ แต่ละก้อนที่วัดได้ คือ ขนาด 25x25x4 ซม. และขอบประตูยังถูกตกแต่งด้วยรูปดาวแปดเหลี่ยมที่ต่อกันอย่างสวยงามไปยังส่วนด้านบนของประตู และต่อลงมาทางด้านล่างของอีกด้านหนึ่ง…
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร
บ่าย ออกเดินทางต่อสู่ เมืองบูคาร่า (Bukhara) (ระยะทาง 110 ก.ม./1.50 ช.ม.)
เดินทางถึง เมืองบูคาร่า (Bukhara) เป็นเมืองศูนย์กลางการปกครองของจังหวัดบูคาร่า ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอุซเบกิสถาน ในอดีตเป็นเมืองโบราณที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นบนเนินเขา สำหรับประกอบพิธีทางศาสนาในฤดูใบไม้ผลิ และยังเป็นเมืองที่กำเนิดงานเขียนของผู้ที่นับถือศาสนาโซโรแอสเตอร์ นอกจากนี้ยังเป็นที่อยู่ของบุคคลสำคัญ มีสุเหร่า อนุสาวรีย์ อนุสรณ์สถาน โรงเรียนสอนศาสนา และยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปีค.ศ. 1993 นำท่านสู่ โดมแห่งการค้า โทกิ-ซาร์การอน (Toki-Zargaron Trading Dome) เป็นโดมการค้าที่ใหญ่ที่สุดในบูคาร่า “ซาร์การอน (Zargaron)” เป็นชื่อของโดมการค้าแห่งนี้ ซึ่งมาจากคำว่า “ซาร์การ์ (Zargar)” มีความหมายว่า ช่างทอง ครั้งหนึ่งเคยมีงานประกอบตัวเรือนของร้านจำหน่ายอัญมณีถึง 36 ร้าน อีกทั้งยังเป็นโดมการค้าแห่งแรกในบูคาร่า มีสินค้ามากมายให้เลือกซื้อได้ เช่น เครื่องประดับ ผ้าเช็ดหน้า อุปกรณ์ครัวเรือนต่าง ๆ เป็นต้น
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก Omar Khayyam Hotel หรือเทียบเท่า (N5)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านผ่านชม ป้อมดิอาร์ค ป้อมปราการแห่งบูคาร่า (Ark of Bukhara) ซึ่งเป็นป้อมเก่าแก่สร้างในศตวรรษที่ 5 ตั้งอยู่ใจกลางเมือง และเมื่อขึ้นไปด้านบนของป้อมจะสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองได้อย่างชัดเจน มีกําแพงล้อมรอบมีความยาวประมาณ 800 เมตร ส่วนของกําแพงมีความสูงถึง 16-20 เมตร ถูกสร้างด้วยอิฐหนาทึบและสูงใหญ่ ส่วนประตูมีซุ้มโค้งและหอคอยทั้งสองด้าน ซึ่งในอดีตภายในถูกใช้เป็นศูนย์ กลางการปกครอง.... ชม สุเหร่าไม้ (Bolo Hauz Mosque) เป็นอาคารสุเหร่าในสมัยกลาง ถูกสร้างขึ้นไปปี ค.ศ.1712-1713 รูปแบบในการก่อสร้างประกอบไปด้วยเสาไม้ที่มีความสูงมาก อาคารด้านหน้ามีเสาไม้ประดับมากกว่า 20 ต้นรองรับดาดฟ้าหลังคา ต่อมาในปี ค.ศ.1917 ก็ได้ใช้สถานที่แห่งนี้เป็นสุเหร่าอย่างเป็นทาง การมาจนถึงปัจจุบันนี้… ชม หอโพลิ คัลยาน (Poli Kalyan Ensemble and Minaret) ถูกสร้างขึ้นใน ปี ค.ศ. 1127 โดย อาสลาน ข่าน แห่งราชวงศ์คารานิด อยู่ในการปกครองของบูคาร่า และสามารถทำให้ผู้พบเห็นต้องตกตะลึงถึงความโอ่อ่างดงามในรูปร่างของหอนี้ ส่วนที่สูงที่สุดเป็นทรงกลม หอนี้ได้ถูกออกแบบเพื่อใช้ในการเรียกประชุมชาวมุสลิมเพื่อมาทำละหมาด และถูกซ่อมแซมขึ้นใหม่ในศตวรรษที่ 15 เพราะว่าเกิดการทรุดตัวเนื่องจากพื้นดินอ่อนนิ่มเกินไป...
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่สถานีรถไฟ เพื่อโดยสารรถไฟสู่เมืองทาชเคนท์
15.54 น. ออกเดินทางสู่ เมืองทาชเคนท์ โดยรถไฟด่วนความเร็วสูง Afrosiyob Express Train ขบวนที่ 767
19.53 น. ถึงสถานีรถไฟทาชเคนท์ เดินทางเข้าสู่ตัวเมือง
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก Qushbegi Plaza Hotel หรือเทียบเท่า (N6)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
10.00 น. นำท่านชม มหาวิหารอัสสัมชัญ (Holy Assumption Cathedral Church) มหาวิหารอัสสัมชัญของพระแม่มารี สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1871 และถูกขยายในปี ค.ศ. 1990 หอระฆังถูกสร้างขึ้นใหม่ในปี 2010 ตัวอาคารเป็นสีฟ้าและยอดโดมเป็นสีทองเด่นเป็นสง่า เป็นศิลปะแบบ Russian Orthodox ที่มีความสวยงามและใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียกลาง
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร
บ่าย นำท่านสัมผัสความงดงามของกลุ่มสถาปัตยกรรม Khazrati Imam complex ซึ่งเป็นบริเวณสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่ของชาวมุสลิมที่มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 เป็นศูนย์รวมจิตวิญญาณของชาวมุสลิมของภูมิภาคนี้ ที่เดินทางผ่านมาบริเวณนี้ต้องมาทำความเคารพและสักการะบูชา ประกอบไปด้วยสิ่งปลูกสร้างที่ยิ่งใหญ่ เช่น มัสยิด โรงเรียนสอนศาสนาและพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมคัมภีร์กุรอ่านเก่าแก่ไว้มากมาย อีกทั้งยังเป็นที่เก็บรักษาคัมภีร์กุรอ่านที่มีขนาดใหญ่ที่สุดอีกด้วย..
จากนั้นนำท่านไป ตลาดคอร์ซู (Chorsu Bazaar) เป็นรูปโดมสีฟ้าสด ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นตลาดที่ยิ่งใหญ่ในเอเชียกลางและบนเส้นทางสายไหม ที่อยู่ภายใต้โดม 7 โดมขายผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ สัมผัสกับบรรยากาศแบบย้อนยุคที่ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ สนุกกับการซื้อสินค้าในบาซาร์ที่มีทั้งผ้าแพร พรม เครื่องทองเหลือง ผ้าขนสัตว์ เครื่องหนัง ผัก-ผลไม้ และสินค้าพื้นเมืองมากมาย…
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่สนามบินทาชเคนท์
22.30 น. ออกเดินกลับสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดย Uzbekistan Airways เที่ยวบินที่ HY 531
(บริการอาหารและพักผ่อนบนเครื่องบิน)
06.40 น. เดินทางถึง กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ...พร้อมความประทับใจ
วันเดินทางไป - กลับ | ผู้ใหญ่ท่านละ | พักเดี่ยวเพิ่มเงิน | ราคาเด็กท่านละ | |
---|---|---|---|---|
03 ธ.ค. 67 - 10 ธ.ค. 67 | 79,555 บาท | 11,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
✓ ค่าตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ ชั้นประหยัด สำหรับหมู่คณะ โดยสายการบิน Uzbekistan Airways, ตั๋วรถไฟ ตามที่ระบุในรายการ
✓ ค่าภาษีสนามบิน ภาษีน้ำมัน และค่าประกันภัยทุกแห่งของสายการบิน (โดยคิดจากอัตรา ณ วันที่ 22/04/2567)
✓ ค่าโรงแรมที่พักระดับมาตรฐาน 4 ดาว (พักห้องละ 2 ท่าน) ตามที่ระบุในรายการ
✓ ค่าธรรมเนียมวีซ่าประเทศอุซเบกิสถาน (E-Visa)
✓ ค่าเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ตามที่ระบุในรายการ
✓ ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ ตามระดับมาตรฐาน
✓ ค่าพาหนะท่องเที่ยวตลอดการเดินทาง
✓ ค่าบริการหัวหน้าทัวร์ผู้ชำนาญของทางบริษัทฯ ที่คอยอำนวยความสะดวกแก่ท่านตลอดการเดินทาง
✓ ค่าระวางน้ำหนักกระเป๋า โหลดใต้ท้องเครื่องบิน 23 กก. จำนวน 1 ใบ และสำหรับหิ้วขึ้นเครื่อง 8 กก. จำนวน 1 ใบ
✓ ค่าประกันอุบัติเหตุแบบกลุ่ม ระหว่างการเดินทาง วงเงินท่านละ 1,000,000 บาท และค่ารักษาพยาบาล วงเงินไม่เกิน 500,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์) ** หากท่านประสงค์ที่จะซื้อประกันเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มความคุ้มครองในส่วนอื่นๆ เพิ่ม กรุณาสอบถามรายละเอียดกับเจ้าหน้าที่ **
✓ Welcome Pack “ซองใส่เอกสารเดินทางพร้อมเล่มโปรแกรมทัวร์”